สวนเฟิร์น

 เพื่อนค่ะ คนชอบสวน ได้แนะนำการจัดสวนแบบคืนสู่ธรรมชาติแล้ว พันธุ์ไม้ที่ปลูกส่วนมากจะได้แก่ พืชประเภทเฟิร์น ครั้งนี้เลยจะแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การดูแลรักษาเฟิร์น ให้เพื่อนๆเพื่อเป็นเคล็ดลับในการปลูกเฟิร์น






เฟิน หรือเฟิร์น

ชื่ออังกฤษ          Fern

ชื่อวิทยาศาสตร์   Pteridophyta หรือ Filicophyta

ตระกูล              Polypodiophyta  หรือ Polypodiopsida

เฟิร์น เป็นพืชมีท่อลำเลียงที่แตกต่างจากไลโคไฟตาตรงที่มีใบที่แท้จริง และขยายพันธุ์ด้วยสปอร์ ต่างจากพืชมีเมล็ด ในส่วนระบบสืบพันธุ์ไม่มีดอกและเมล็ด เฟิร์นมีวงจรชีวิตแบบสลับที่มีระยะ

เฟิร์น ชนิดต่างๆมีถิ่นอาศัยที่หลากหลายตั้งแต่ภูเขาสูงที่ห่างไกล บนหิน ในทะเลทรายที่แห้งแล้ง ในน้ำ หรือท้องทุ่ง บ่อยครั้งที่พืชดอกไม่สามารถอยู่ได้แต่เฟิร์นอยู่ได้ ถิ่นอาศัยที่สามารถพบเฟิร์นได้

• -ที่ชุ่มชื้น, พื้นที่เปิดโล่ง, หรือมีร่มเงาบ้าง, รอยแตกบนหิน, พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีสภาพเป็นกรด เช่น หนองน้ำ บึง และบนต้นไม้

เฟิร์น ประกอบด้วย  ลำต้น โดยมากเป็นเหง้าอยู่ใต้ดิน บางครั้งก็เป็นไหลอยู่เหนือดิน หรือลำต้นตั้งตรงเนื้อคล้ายไม้เหนือดิน  ใบ สีเขียว

เฟิร์น แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่

1. เฟิร์นอิงอาศัย จะเจริญเติบโตบนต้นไม้แต่ไม่ได้เป็นกาฝาก อาศัยเกาะอยู่ตามกิ่งตามลำต้นของต้นไม้โดยรากจะกาะอยู่ที่ผิวหรือเปลือกไม้เท่านั้น บางวชนิดจะชอบอยู่ร่ม บางชนิดชอบแดดจัด บางชนิดทนทานต่อความแ้งแล้งได้ดี

2. เฟิร์นดินและเฟิร์นหิน จะพบอยู่ตามพื้นดินในบริเวณที่ได้รับแสงน้อย หรือแสงแดดรำไรใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่ ในอากาศที่มีความชื้นสูง อุณหภูมิดินไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

3. เฟิร์นน้ำ เป็นพืชน้ำมีทั้งชนิดลอยอยู่ตามผิวน้ำ และชนิดที่ขึ้นอยู่กับดินดคลนตามแหล่งน้ำขังตื้นๆ หรือตามริมตลิ่ง

การดูแลรักษาเฟิร์น เฟิร์นแต่ละกลุ่มต้องการดิน และอากาศ หรือสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกันสิ่งที่เฟิร์นไม่ชอบ ได้แก่

1. ดินและวัสดุที่ปลูก

• - ดินที่ไม่เหมาะกับการปลูกเฟิร์น คือ ดินเหนียว เพราะดินเหนียวจะแน่นทึบ ระบายน้ำไม่ดี ที่สำคัญจะปลูกต้นเฟิร์นควรปรับปรุงดิน หรือวัสดุปลุกให้เหมาะกับเฟิร์นแต่ละประเภท- วัสดุที่ปลูก ไม่ควรใช้วัสดุปลุกแห้ง ไม่ได้รับน้ำตามปกติ ทำให้ใบเฟิร์นเหี่ยวเฉาปลายใบแห้ง ควรให้รดน้ำทันทีและดูแลจนกว่าจะเกิดใบใหม่ เมื่อใบใหม่เริ่มเจริญขึ้น จึงให้ปุ๋ยละลายน้ำในความเข้มข้นต่ำสัปดาห์ละครั้ง

• -วัสดุที่ปลูกในกระถางไม่เหมาะสม โดยเฉพาะเฟิร์นที่ซื้อตามร้านค้า จะมีส่วนผสมของวัสดุปลูกที่เป็นขุยมะพร้าว หรือกาบมะพร้าวมาก แม้มีความชื้นมากแต่ไม่มีธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับพืช

2. การให้ปุ๋ยปริมาณมาก หรือใช้ความเข้มข้นสูง

• - การให้ปุ๋ยปริมาณมาก จะทำให้เฟิร์นเหี่ยวแห้งหรือไหม้ และอาจตายในที่สุด การให้ปุ๋ยแก่เฟิร์นจะต้องให้ปริมาณน้อย มีความเข้มข้นที่ต่ำ หากดินสมบูรณ์แล้วไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเลย

• -วัสดุระบายน้ำไม่ดี หรือการวางกระถางแช่น้ำนานๆจะทำให้รากเน่า เมื่อรากดูดน้ำไม่ได้ ใบเฟิร์นจะเริ่มเหี่ยวแห้ง เพราะขาดน้ำ ในระยะแรกที่อาการยังไม่มากนัก ให้ขุดต้นขึ้นมาตัดรากที่เน่าออกแล้วเปลี่ยนเป็นวัสดุปลูกใหม่ ในระยะนี้ไม่ควรใส่ปุ๋ย ถ้าใช้จานรองกระถาง ควรรองก้นกระถางด้วยกรวดหรืออิฐมอญทุบ เพื่อให้พ้นจากระดับน้ำในจานรอง

3. แมลงศัตรูเข้าทำลายโรค

• -แมลงของเฟิร์น ได้แก่ เพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอย เพลี้ยเกล้ด หอยทาก ตั้กแตน หนอน และด้วง ถ้ามีจำนวนน้อยให้เขี่ยออก แต่ถ้ามีมากให้ฉีดยาป้องกันแมลง แล้วแต่ชนิดของแมลง ถ้าเป็นโรคก็ควรพ่นยาตามโรคนั้นๆ

4. สภาพอากาศไม่เหมาะสม

• - แสงแดด อุณหภูมิ ความชื้น ไม่เหมาะสม ได้รับแสงแดดจัดมากเกินไป หรือแสงสว่างไม่พอ มีลมโกรกหรือความชื้นต่ำ

• -ฤดูกาลไม่เหมาะสม เฟิรฺ์นจะเติบโตได้ดีในฤดุฝนและฤดูร้อนซึ่งมีความชื้นในอากาศสูง ส่วนฤดูหนาวมีความชื้นในอากาศต่ำ และมีอากาศเย็น จะเติบโตได้ไม่ดี ใบจะแห้งเหี่ยวง่ายหรือชะลอการเติบโต บางชนิดอาจหยุดพักการเติบโต

 เพื่อนๆค่ะ การที่จะปลูกต้นไม้ไม่ว่าจะชนิดใดก็ตาม เพื่อนๆควรที่จะศึกษาถึงนิสัย และความชอบของพันธุ์ไม้นั้น จะทำให้ต้นไม้เรานั้นเจริญเติบโตสวยงาม คนชอบสวน เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆนะค่ะ...

การดูแลสวน