วันเสาร์

ต้นไม้ต้องห้ามริมรั้ว



เพื่อนๆค่ะ อุปนิสัยพื้นฐานของคนไทยเป็นคนโอบอ้อมอารีย์ มีอะไรก็จะเผื่อแผ่แบ่งปันให้กับบ้านใกล้เรือนเคียงเสมอ ซึ่งชีวิตของคนต่างจังหวัดจะเป็นแบบนี้ แต่ในเมืองใหญ่ๆคนซึ่งอยู่บ้านติดกันอาจจะไม่รู้จักกันเลย คนชอบสวน อยากจะคุยกะเพื่อนๆ เรื่องการปลูกต้นไม้ริมรั้วว่าเราจะ   " ปลูกต้นไม้อย่างไรไม่ให้กระทบกับเพื่อนบ้าน "









  • ต้นไม้ต้องห้ามสำหรับริมรั้ว

- บางพวกรากที่แผ่ขยายไปไกลมาก เช่น ไทร ไกร กร่าง จะไม่เหมาะเพราะปลูกไว้ห่างรั้วถึง 5 เมตร รากยังแผ่ข้ามรั้วไปบ้านอื่นได้ ต้องสังเกตดีๆ ถ้ารากมันข้ามมาแล้วต้องคอยฟันทิ้ง ไม่เช่นนั้นรากเล็กๆอาจจะแผ่มาอุดตันท่ออีกด้วย


- กระถินยักษ์ ก็เหมือนกัน ต้นเปราะหักง่าย ถ้าปลูกใกล้ๆรั้วพอลมฝนพัดมาแรงๆมันอาจจะล้มได้ มะขาม ไม่ค่อยมีปัญหาแต่ใบจะร่วงปลิวไปบ้านอื่น มะม่วง รากก็ไม่ค่อยรบกวน แต่จะมีปัญหาเรื่องยางซึ่งอาจจะกระทบเพื่อนบ้านบ้าง พวกผลไม้จะโดนบ่นน้อย เพราะเพื่อนบ้านแอบเก็บกินได้ แต่ถ้า ขนุน ไม่แนะนำใบจะร่วงมาก ร่วงไปข้างบ้านด้วย ลูกขนุนจะอยู่ในรั้วบ้านเราส่วนรากก็รุนแรงเหมือนกัน


- ต้นสน  ต้นไผ่ ใบก็ร่วงน่าดู ใบสนนี่ถ้าใบร่วงมากๆพื้นที่ตรงนั้นจะใช้ทำอะไรไม่ได้เลย ปลูกต้นอะไรก็ไม่ขึ้นแล้วรากฝอยจะแผ่ไปเยอะ ประดู่ ก็รบกวนมากเหมือนกัน ใบร่วงแต่โชคดีที่อยู่วงศ์เดียวกับถั่ว ใบจึงใช้ประโยชน์เป็นปุ๋ยได้บ้าง ให้ร่มเงาโดยไม่รบกวนโครงสร้างเท่าไหร่


- ถ้าเป็นพวกไทรพวกนี้ต้นรั้วโก่งหมด พญาสัตบรรณ ก็ให้ร่มเงาดีเป็นพวกไม้เนื้ออ่อน แต่ไม่เปราะเท่ากระถินยักษ์ ที่สำคัญเราควรเลือกลงเหมือนใหญ่เป็นไม้เพาะเมล็ด อายุสัก 4-5 ปี แล้วให้มาโตที่บ้านเราจะได้มีระบบรากที่แข็งแรงกว่า 


- หูกวาง ก็เป็นอีกต้นที่รากแผ่ ใบร่วงมาก มีหนอนเยอะ ชอบมากินลูกหูกวาง เวลาลูกร่วงมากๆจะสร้างความรำคาญให้กับเรา


- ที่ร้ายกลัวจริงๆคือ ปาล์มขวด ถ้าต้นใหญ่ขึ้น กาบใบจะใหญ่และแข็งถ้าร่วงลงมาทีโดนรถอาจจะบุบได้ อันตรายมากๆ จึงไม่ควรปลูกปาล์มขวดในบ้านที่มีบริเวณน้อย บางบ้านเจอกาบใบร่วงใส่หลังคา ถึงขั้นกระเบื้องแตกได้พวกนี้ควรปลูกในที่กว้างๆ เช่นสนามกอล์ฟ


  • นอกจากพวกไม้ต้นใหญ่ รากแผ่  ใบร่วงมากแล้ว ต้องระวังพวกที่มีละอองเกสรปลิวกระจายจนก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ เวลาปลูกต้องดูทิศทางลมเข้าบ้านคนอื่นหรือเปล่า พวกที่มีหนามแหลมยื่นเข้าไปในบ้านคนอื่นก็ไม่ควรที่จะปลูกริมรั้ว เช่น ไม้ป่าบางอย่างที่เอามาจัดสวน อย่างเช่น ตะลุมพุก หรือสารภีป่า พวกนี้เป็นไม้ป่าที่มีหนามแหลม  มะสัง ก็มีหนามแหลม หนามแข็งด้วย เราต้องระวังอย่าให้กระทบเพื่อนบ้าน

    เพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้าบ้านเค้าเคยปลูกไผ่ริมรั้ว เพราะเค้าชอบ ดูสวยดี แต่เค้าไม่เคยทราบเลยว่าไปสร้างความเดือดร้อนให้กับข้างบ้านมาก เค้าบอกว่าวันหนึ่งอยู่ๆข้างบ้านเค้าก็โยนกระสอบปุ๋ยข้ามรั้วมา พอแกะดูข้างใน เป็นใบไผ่ทั้งนั้นเลย....จึงรู้สึกได้ว่า การปลูกต้นไม้แล้วรบกวนบ้านคนอื่นเป็น สิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง


    เพื่อนๆค่ะ การที่จะเลือกปลูกต้นไม้ข้างๆริมรั้วนั้น เราพยายามเลือกต้นไม้ที่ไม่ต้องไปรบกวนเพื่อนบ้าน จะได้ไม่เกิดปัญหาคาแคลงใจ ไม่เช่นนั้นจุดเล็กๆอาจจะทำให้เราทะเลาะกันได้ คนชอบสวน เป็นห่วงนะคร่าาาาาาา

    วันพฤหัสบดี

    ลักษณะของปุ๋ย (ต่อ)



    เพื่อนๆค่ะ ครั้งก่อนหน้า คนชอบสวนเคยคุยถึงเรื่องปุ๋ย ชนิดของปุ๋ย ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ วันนี้จะตามเรื่องปุ๋ยแต่เป็น ลักษณะของปุ๋ย






    ลักษณะของปุ๋ย ปุ๋ยต่างๆที่เราเคยกล่าวมาแล้วสามารถแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ

    1. ปุ๋ยน้ำ
    2. ปุ๋ยเกลือ หรือปุ๋ยผง
    3. ปุ๋ยแผ่น หรือปุ๋ยก้อน



    • ปุ๋ยน้ำ  
     -เป็นปุ๋ยที่เตรียมจากปุ๋ยเกลือ หรือปุ๋ยผง เป็นปุ๋ยที่มีธาตุอาหารพืชละลายอยู่ในน้ำที่มีลักษณะเข้มข้น เมื่อใช้จะต้องเอาผสมกับน้ำอีกครั้งหนึ่ง ตามส่วนที่ได้แนะนำไว้ตามคำแนะนำการใช้ปุ๋ยนั้นๆ ปุ๋ยที่ละลายน้ำใช้แล้ว ทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้รวดเร็วมาก แต่ถ้าผู้ใช้ผสมไม่ถูกส่วน ก็จะทำให้ต้นไม้ตายได้ง่าย


    • ปุ๋ยเกลือ หรือปุ๋ยผง 
    -เป็นปุ๋ยที่อาจมีคุณสมบัติได้เป็น 2 ลักษณะ คือ อาจละลายน้ำได้หมด หรือละลายน้ำได้บางส่วน ปุ๋ยที่ละลายน้ำได้หมดโดยมากเป็นเกลือ ซึ่งละลายน้ำได้ง่ายเหมือนปุ๋ยน้ำ การผสมก็ผสมกับน้ำ แต่การผิดพลาดในส่วนผสมผิดพลาดได้ง่ายกว่าปุ๋ยน้ำ เพราะการผสมเกลือจะต้องชั่งหรือตักตวงเป็นช้อนโต๊ะช้อนชา หากตักตวงหรือชั่งไม่แน่นอนก็เป็นผลร้ายแก่พืช

    -สำหรับปุ๋ยผง เป็นผงหรือก้อนเล็กๆละลายน้ำได้บางส่วน การใช้ก็ใช้โรยลงบนดิน เหมาะแก่การใช้กับต้นไม้ทั่วๆไป เนื่องจากปุ๋ยชนิดนี้ละลายน้ำได้บางส่วน จึงไม่ค่อยมีปฏิกิริยารุนแรง และค้างอยู่บนดินได้นานๆ แล้วค่อยๆละลายออกมาเป็นอาหารของต้นไม้ได้เรื่อยๆ



    • ปุ๋ยแผ่นหรือปุ๋ยก้อน
    -คือ ปุ๋ยที่รวมไว้เป็นก้อนหรืออัดเป็นแผ่น ปุ๋ยจำพวกนี้เป็นปุ๋ยจำพวกอินทรีย์อัด เช่น หญ้า ฟางหมัก กากเมล็ดพืช ใบไม้ผุ ฯลฯ ผสมกับตัวสมาน เช่น โคลน หรือมูลโคเปียก เพื่อให้ปุ๋ยเป็นแผ่นแล้วทำให้แข็ง เป็นปุ๋ยที่เหมาะแก่ต้นไม้ที่ปลูกในดินโดยเฉพาะ ปุ๋ยชนิดนี้ทนได้อยู่ในดินได้นานๆ ค่อยๆผุพัง โดยอาศัยจุรินทรีย์ที่อยู่ในดินช่วยทำลายให้สลายตัว และละลายเอาอาหารของต้นไม้ออกมาทีละน้อย นอกจากนั้นยังทำให้ดินร่วนซุยอุ้มน้ำได้ดีขึ้น แต่ถ้าต้องการให้ต้นไม้เจริญเติบโตเร็ว ควรใช้ปุ๋ยน้ำเร่งด้วยจะทำให้ได้ผลดี



    เพื่อนๆค่ะ ปุ๋ยนี่ถือว่าเป็นอาหารที่สำคัญของพืช พืชต้องการปุ๋ยเพื่อไปบำรุงสร้างความเจริญเติบโตแก่พืช การปลูกพืชนั้นควรได้รับการดูแลที่ดี คนชอบสวนอยากจะให้เพื่อนๆศึกษาเพื่อจะได้ให้ปุ๋ยได้ถูกต้องนะค่ะ...

    วันพุธ

    แพงพวย



    เพื่อนๆค่ะ คนชอบสวนมีไม้ประดับจะแนะนำ ชื่อนี้จะออกแนวไทยๆ หรือบ้านๆ จริงๆแล้วเป็นที่นิยมมากๆมีดอกที่สวยงาม มีหลายสี สีสันสดใส ใครเห็นก็จะชอบ ได้แก่ แพงพวย







    แพงพวย

    ชื่อสามัญ  Madagascar periwinkle

    ชื่อวิทยาศาสตร์  Catharanthus roseus " G.Don"

    ตระกูล  APOCYNACEAE

    ลักษณะทั่วไป

    • แพงพวยเป็นไม้ล้มลุก เจริญเติบโตได้ดีแตกกิ่งก้านสาขาได้อย่างมากมาย 
    • ใบมีสีเขียวเข้ม ลักษณะกลมรี ขอบใบเรียบ ใบยาวประมาณ 2 นิ้ว และกว้างประมาณ 1 นิ้ว
    • ดอก ออกดอกบริเวณยอดของต้น ดอกของแพงพวยในสมัยก่อนจะมีไม่กี่สี แดง ขาว แต่ในปัจจุบันนี้มีหลายสีมากเช่น แดงเข้ม ม่วง เหลือง ชมพู หรือมีสองสีในดอกเดียว
    การดูแลรักษา

    • แสง  ต้องการแสงแดดจัด
    • น้ำ  ต้องการน้ำพอสมควร แต่อย่าให้น้ำขังแฉะ
    • ดิน  เจริญเติบโตได้ในดินทุกชนิด แต่จะชอบดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำดีและค่อนข้างแห้ง
    • ปุ๋ย  ให้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ปีละ 2 ครั้ง
    • โรคและแมลง  ไม่ค่อยพบโรคและแมลงรบกวน
    • การขยายพันธุ์  โดยการปักชำ หรือเพาะเมล็ด การเพาะเมล็ดจะง่ายกว่า โดยเพาะลงในกะบะหรือหว่านลงแปลงปลูก เมล็ดจะงอกภายมน 5-7 วัน แพงพวยเป็นพืชที่เติบโตรวดเร็วมาก


    แพงพวย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่


    1.แพงพวยแบบเลื้อย (Creeping Type Vinca) โดยแต่ละต้นจะแตกกอคลุมพื้นที่ประมาณ 8-10 นิ้ว เหมาะสำหรับปลูกในตระกร้าแขวน

    2.แพงพวยแบบพันธุ์แคระ (Dwarf Type Vinca) จะมีดอกเล็กและลำต้นสูงไม่เกิน 12 นิ้ว

    3.แบบปลูกริมรั้ว (Border Type Vinca) จะมีดอกโต ต้นสูงประมาณ 14-20 นิ้ว

    • แพงพวยเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ที่ทนทานต่อดินฟ้าอากาศ และโรค แมลง ตลอดจนสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ ดอกมีสีสันสวยงาม ออกดอกตลอดปี นิยมปลูกประดับไว้ตามสนามหญ้า ข้างทางเดินหรือข้างถนน การปลูกจะปลูกเป็นแถวหรือเป็นกลุ่ม

    เพื่อนๆค่ะ คิดเหมือนคนชอบสวนหรือเปล่าค่ะ แพงพวยที่เป็นกระถางแขวนจะดูสวยงามสดใส เคยเห็นบางคนปลูกแพงพวยในรถสามล้อที่ทำด้วยไม้ก็ช่วยให้สวนดูน่ารักจุ๋มจิ๋มขึ้นอีกเยอะ เพื่อนๆค่ะมาปลูกแพงพวยประดับบ้านด้วยกันนะค่ะ...

    วันอังคาร

    การใช้ยากำจัดแมลง โรคของพืช



    เพื่อนๆค่ะ ครั้งที่แล้วคนชอบสวนได้เคยแนะนำยากำจัดแมลงศัตรูพืชแล้ว วันนี้จะแนะนำการฉีดหรือพ่นยาให้เพื่อนๆได้ทราบและปฏิบัติ นะค่ะ






    การใช้ยากำจัดแมลงและโรคของพืช  สิ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญที่จะขัดขวางความเจริญเติบโตของต้นไม้ คือ ศัตรูของต้นไม้ แบ่งออกเป็น 2 พวกใหญ่ๆ คือ

    1. แมลงต่างๆได้แก่ พวกแมลงที่ใช้ปากดูดและปากกัด 
    • แมลงจำพวกปากดูด พวกนี้ทำอันตรายต่อพืช โดยจะใช้ปากเจาะเข้าไปในใบ ลำต้น ผล หัว แล้วดูดเอาอาหารออกมาจากแผลที่มันเจาะ ได้แก่ พวกเพลี้ยต่างๆ เช่น เพลี้ยแป้ง เพลี้ยอ่อน แมงมุมแดง เพลี้ยจั่กจั่น และเพลี้ยหอยมวน  กำจัดแมลงพวกนี้ต้องใช้ยาฉีดชนิดถูกตัวแมลงตาย

    • แมลงจำพวกปากกัด พวกนี้ทำลายพืชโดยใช้ปากเคี้ยวกัดกินใบ กินดอกและส่วนต่างๆของพืช แมลงพวกนี้ได้ เต่าทองต่างๆ ตั้กแตน ผีเสื้อ ด้วงปีกแข็ง ด้วงงวง กำจัดแมลงพวกนี้โดยใช้ยาฉีดไว้ตามใบและลำต้นของพืช เมื่อแมลงกินเข้าไปจะตาย ยาพวกนี้เรียกว่ายากินเข้าไปตาย
    2. โรคของพืช เป็นศัตรูของพืชอีกชนิดหนึ่ง โรคของพืชเกิดจากเชื้อ เช่น เชื้อรา แบคทีเรีย และเชื้อไวรัส (Virus)


    การปฏิบัติในขณะฉีดยาหรือพ่นยากำจัดแมลง เนื่องจากยาบางชนิดมีพิษ ดังนั้นการฉีดยากำจัดแมลงศัตรูพืชต้องทำโดยความระมัดระวัง การพ่นยากำจัดแมลงควรทำได้ ดังนี้

    1. ก่อนจะใช้ยาต้องพิจารณาดูก่อนว่า พืชนั้นเป็นโรคหรือโดยแมลงทำลาย แมลงที่ทำลายพืชนั้นเป็นเพลี้ยชนิดดููดน้ำหล่อเลี้ยงใบ ตากิ่ง ตาดอก และลำต้น หรือแมลงที่กัดกินใบ ตากิ่ง ตาดอก หัวหรือลำต้น เมื่อทราบแล้วหายากำจัดศัตรูพืชหรือแมลงตามชนิดนั้นๆ

    2. เมื่อได้ยากำจัดแมลงหรือศัตรูพืชแล้ว ควรอ่านวิธีการใช้ว่าเป็นชนิดละลายน้ำ หรือชนิดผง และใช้ส่วนผสมอย่างไร การผสมน้ำควรผสมแต่น้อยกวนให้เข้ากัน ห้ามใช้มือกวนผสมเป็นอันขาด อาจจะใช้ไม้กวนแล้วเติมน้ำตามอัตราส่วนที่ต้องการใส่ในเครื่องฉีด


    3. ก่อนฉีดควรใช้ผ้าปิดจมูก เพื่อป้องกันยาไม่ให้เข้าร่างกาย ในขณะฉีดควรหันฉีดไปตามลมอย่าฉีดทวนลม

    4. เวลาฉีดยากำจัดศัตรูพืชให้ฉีดตอนเช้าหรือตอนเย็นใกล้ค่ำ ไม่ควรฉีดในตอนที่แดดจัดหรืออากาศร้อนจัด เพราะจะทำให้ยาระเหยเร็ว

    5. ในขณะฉีดไม่ควรสูบบุหรี่หรือกินอาหาร เมื่อเลิกฉีดแล้วต้องล้างมือและส่วนต่างๆของร่างกายให้สะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ และล้างเครื่องมือที่ใช้ด้วยน้ำสะอาดแล้วเก็บให้เรียบร้อย

    6. เมื่อทำการฉีดยา อย่านำเด็ก สัตว์เลี้ยง อาหารและเครื่องดื่ม เข้าใกล้ที่ฉีดยา เพราะจะทำให้เกิดอันตราย

    7. เมื่อเสร็จจากการฉีดยา ต้องรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำฟอกสบู่หลายๆครั้งให้ร่างกายสะอาด

    8. ไม่ควรเข้าไปที่บริเวณฉีดยาใหม่ๆ ต้องให้หมดกลิ่นเสียก่อนจึงเข้าไปได้

    การแก้พิษเบื้องต้น เมื่อโดนสารเคมียาฆ่าแมลง
    • ให้รีบนำผู้ป่วยออกจากบริเวณนั้น พักผ่อนในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
    • หากสารเคมีเข้าปาก รีบทำให้อาเจียน
    • หากสัมผัสผิวหนัง รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดใช้น้ำล้างออกมากๆ หากเปื้อนเสื้อผ้าให้รีบเปลี่ยนออกทันที
    • หากมีอาการรุนแรง ให้รีบพบแพทย์ทันที พร้อมกับนำภาชนะบรรจุและยากำจัดแมลงนั้นนำไปด้วย

    เพื่อนๆค่ะ ทราบวิธีปฏิบัติในขณะที่ฉีดยาหรือพ่นยากำจัดแมลงแล้วนะค่ะ เพื่อนๆค่ะอย่าประมาทนะค่ะ เพราะยาฆ่าแมลงพวกนี้ส่วนมากจะเป็นสารพิษ เวลาปฏิบัติคนชอบสวนอยากให้เพื่อนๆระมัดระวังเป็นพิเศษ เป็นห่วงคร่าาาา...

    วันจันทร์

    ยากำจัดศัตรูพืช



    เพื่อนๆค่ะ เราคงจะทราบดีว่าสิ่งที่เป็นอุปสรรค หรือปัญหากับต้นไม้ที่ทำให้ต้นไม้ไม่จริญเติบโต และทำลายต้นไม้นั้นได้แก่ แมลงและโรคของต้นไม้นั้นๆ คนชอบสวนจะแนะนำเพื่อนๆให้รู้จักกับ ยากำจัดแมลง



    ชนิดของยากำจัดแมลงศัตรูพืช ยากำจัดแมลงมีด้วยกันหลายชนิด แต่ถ้าแบ่งออกเป็นพวกใหญ่ๆตามลักษณะการฆ่าแมลงแล้ว สามารถแบ่งออกเป็น 3 พวกคือ

    1. ชนิดแมลงกินเข้าไปตาย  ยากำจัดแมลงนี้ใช้กำจัดแมลงที่กัดกินใบ ตากิ่ง ผล ดอกและลำต้น

    2. ชนิดถูกตัวแมลงแล้วตาย ยากำจัดแมลงชนิดนี้ ใช้กำจัดพวกเพลี้ยต่างๆ

    3. ชนิดได้กลิ่นแล้วตาย ยากำจัดแมลงชนิดนี้ไม่ค่อยนิยมใช้ เพราะเป็นอันตรายแก่ผู้ใช้และราคาสูงมาก

    • ยากำจัดแมลงศัตรูพืชชนิดต่างๆเหล่านี้ ผู้ผลิตจะทำมาในแบบน้ำมันละลายน้ำได้ แบบยาละลายได้ในน้ำนี้มีเปอร์เซ็นต์ของยาสูง เมื่อจะนำมาใช้ต้องผสมกับน้ำตามส่วนที่แจ้งไว้ นอกจากจะมีแบบละลายน้ำยังมีแบบผง แบบนี้ไม่ละลายน้ำ เมื่อจะใช้ก็ใช้พ่นความแรงของยาออกฤทธิ์ประมาณ 1-2% เป็นส่วนมาก


      ประเภทของยากำจัดแมลง ยากำจัดแมลงศัตรูพืช แบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
      • 1.ประเภทสารประกอบของคลอริเนเตดไฮโดรคาร์บอน มีสูตรต่างๆกันหลายอย่าง คือ ดีดีที พี.ดี.รี พาราไดคลอโรเบลซิล ดิลดริน เพนตาคลอโรพีนนอล และคลอเดน ฯลฯ ยาพวกนี้ใช้กำจัดตั้กแตนและแมลงปีกแข็งต่างๆ มีพิษสำหรับคนและสัตว์เลี้ยงปานกลาง ก่อนใช้ต้องผสมตามส่วนที่ได้แนะนำไว้ ใช้ฉีดทุกๆ 15 วัน
      • 2. ประเภทที่มีสารประกอบคาร์บอเมต มีสูตรต่างๆกัน แต่แพร่หลาย คือ เซวิน ยาพวกนี้ใช้กำจัดแมลงปีกแข็ง ตัวหนอน หรือตั้กแตน เป็นยาที่กำจัดแมลงได้กว้างขวาง มีพิษสำหรัยคนและสัตว์น้อยมาก ผสมตามส่วนที่กำหนดใช้ตามฉลากข้างขวด หรือกระป๋อง ฉีดทุก 15 วัน
      • 3. ประเภทสารประกอบออร์แกโนฟอสเฟต ได้แก่ พาราไทน์ มาลาไทน์โคซินอน ดีดีวีพี รอนเนล ดิพเทอเร็กซ์ ยาพวกนี้ใช้กำจัดแมลงที่ดูดใบเลี้ยง จาก ใบ ตา กิ่ง ยอด ได้แก่ พวกเพลี้ยต่างๆ รวมถึงหนอน ผีเสื้อบางชนิด ยาประเภทนี้มีพิษสำหรับคนและสัตว์เลี้ยงสูงมาก การใช้ยาประเภทนี้ต้องระวัง
      • 4. ประเภทเนเจอรัล ออแกนิก สกัดจากดอกเบญจมาศได้ไพเรททรัม ใช้ผสมไปในยากำจัดแมลง
      • 5. ประเภทอคาริไซค์ เช่น อราไมท์ คลอโรเบนซิเลท เคลเลน ยาประเภทนี้ใช้กำจัดแมงมุมแดงโดยเฉพาะ
      ยาฆ่าแมลงและยากำจัดวัชพืช ส่วนมากจะเป็นสารเคมีที่บางครั้งก็เป็นสารมีพิษ เมื่อถูกชะล้างลงไปในน้ำ ก็จะเป็นพิษแก่พืชและสัตว์ที่อยู่ในน้ำ หากเรานำน้ำไปใช้ก็จะได้รับอันตรายจากสารพิษนั้นด้วย

      เพื่อนๆค่ะ ยากำจัดแมลงบางชนิดนั้นเป็นยามีพิษ การจะฉีดนั้นต้องใช้ความระมัดระวัง อย่าประมาทเผอเรอ อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ คนชอบสวน เป็นห่วงเพื่อนๆนะค่ะ

      วันอาทิตย์

      ลิ้นมังกร



      เพื่อนๆค่ะ มีไม้มงคลชนิดหนึ่ง ที่คนโบราณเชื่อว่าถ้าปลูกไว้ที่บ้านจะช่วยป้องกันอันตรายจากภายนอก เชื่อว่าเป็นอาวุธชนิดหนึ่งของพระอินทร์ คนชอบสวนจะพาเพื่อนๆมารู้จักไม้มงคลนี้ซึ่งได้แก่ ต้นลิ้นมังกร


      ชื่อสามัญ  Mather-in-law' Tongue

      ชื่อวิทยาศาสตร์  Sancivieria.

      ตระูกูล  AGAVACEAE

      ถิ่นกำเนิด  แถบทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ





      ลักษณะทั่วไป

      • ลิ้นมังกรเป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกกันมาก และปลูกเลี้ยงง่ายและมีความทนมาก ลิ้นมังกรมีอยู่มากมายหลายชนิด ทำให้เรียกชื่อต่างกันออกไปมากมาย 
      • ใบของลิ้นมังกรจะมีสีเขยวและมีลายสีเขียวเข้ม เกิดอยู่ตามแผ่นใบบางชนิดก็จะมีสีเหลืองอยู่บริเวณขอบใบทั้งสองข้างใบจะหนาและแข็ง ยาวประมาณ 30-50 ซม.
      • ดอกมีขนาดเล็ก ออเรียงกันเป็นดอกสีขาวมีกลีบ 5 กลีบขนาดดอกบานเต็มที่ 2 ซม.
      • นิยมใช้จัดสวนหรือปลูกเป็นกลุ่มๆ ตามสนามหญ้าและข้างตัวอาคาร

      การดูแลรักษา
      • แสง  ชอบแสงมาก
      • น้ำ  ให้น้ำพอประมาณ
      • ดิน  เจริญเติบโตได้ในดอนแทบทุกชนิด
      • ปุ๋ย  ให้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 2 ครั้ง
      • การขยายพันธุ์  แยกหน่อหรือตัดชำใบ
      • โรคและแมลง  ไม่ค่อยพบโรคและแมลงที่ก่อให้เกิดปัญหา
      การปลูก มี 2 วิธี
      1. ปลูกในแปลง เพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน คนโบราณสมัยก่อนนิยมปลูกเป็นแนวรั้วบ้าน ขนาดหลุมปลูก 30*30*30 ซม. ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก :ดินร่วน:อัตรา1:1 ผสมดินปลูก
      2. ปลูกในกระถาง เพื่อประดับภายในและภายนอกอาคาร ควรใช้กระถางทรงสูงขนาดประมาณ 10-15 นิ้ว ใข้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ดินร่วน อัตรา 1:1 ผสมดินปลูก และควรเปลี่ยนกระถางทุก1-2 ปี เพราะเนื่องจากการขยายตัวของรากและหน่อจะแน่นเกินไป และเพื่อเปลี่ยนดินใหม่แทนดินเดิมที่เสื่อมสภาพ
      สรรพคุณทางยา

      ดอก แก้กระอักเลือด และไอเป็นเลือด ใช้ดอกสดต้มน้ำกิน
      ใบ  ต้องเก็บจากต้นที่โตเต็มวัย จะมีรสขม แก้ไอแห้งๆ เจ็บคอ หอบหืด บำรุงปอด ไอเป็นเลือด เสียงแหบแห้ง และรักษาโรคที่ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ 
      • ไอเป็นเลือด กระอักเลือด ใช้ใบสด 10-15 กรัม ต้มทานกับน้ำ หรือจะต้มเป็นน้ำแกงโดยใส่หมูลงไปด้วย
      • ไอมีเสลดเหนียว หรือไอแห้ง ใช้ใบสด 7-8 ใบกับผลอินทผลัม 4 ลูกต้มทานกับน้ำ หรือจะใช้ใบแห้งประมาณ 15 กรัม ต้มน้ำทาน
      • หลอดลมอักเสบ หอบหืดหรือโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ให้ใช้ใบสด 7-8 ใบ หรือใบแห้ง 15 กรัม ต้มน้ำทาน
      การปลูกเพื่อเสริมฮวงจุ้ย ควรปลูกลิ้นมังกรไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ควรปลูกในวันอังคาร เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาประโยชน์ทั่วไปให้ปลูกกันในวันอังคาร

      เพื่อนๆค่ะ การเสริมฮวงจุ้ยนี้คนชอบสวนชอบมากเลยนะค่ะ อะไรที่ทำแล้วเป็นสิริมงคลเป็นการเสริมให้ดีชอบหมดทุกอย่าง เหมือนการปลูกลิ้นมังกรนั้นมีประโยชน์มากมาย และยังเป็นไม้มงคล เพื่อนๆมาปลูกลิ้นมังกรด้วยกัน..มั้ยค่ะ...

        ไม้มงคล 8 ทิศ



        เพื่อนๆค่ะ การถือเอาเคล็ดชื่อต้นไม้มาเป็นสื่อสัญลักษณ์เพื่อความเป็นสิริมงคล นั้นมีมาช้านาน คนชอบสวนได้พูดถึงการปลูกไม้มงคลตามทิศทั้งแปดไว้ในการจัดสวนสวยริมคลอง วันนี้เลยจะมาคุยเจาะลึกรายละเอียด ไม้มงคล 8 ทิศ 





        ไม้มงคลกับทิศทั้งแปด ได้แก่ พวกว่าน บอน โกสน โป๊ยเซียน เป็นไม้เล็ก ถ้าใครไม่ชอบไม้เล็ก เขาไปปลูกพวกไม้ใหญ่กัน ไม้ต้นใหญ่ที่เป็นไม้มงคลก็มีว่ากันไว้หลายตำรา บางคนก็ว่ามีไม้มงคล 9ชนิด คือ ชัยพฤกษ์ ราชพฤกษ์ ทองหลาง ไผ่สีสุก กันเกรา ทรงบาดาล สักทอง พะยูง และขนุน แต่บางคนก็บอกมีมากกว่านั้น

        ต้นไม้ที่ปลูกตามทิศทั้งแปด และความเชื่อเกี่ยวกับต้นไม้เหล่านี้

        • ทิศเหนือ หรืออุดร ให้ปลูก ต้นส้มข่อย เพื่อปลดปล่อยทุกข์โศกโรคภัย ส้มซ่า เพื่อให้ชื่อเสียงขจรไปทั้งเมือง และ มะเดื่ออุทุมพร เพื่อให้เกิดความเจริญแก่บ้านและทุกคนในครอบครัว
        • ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรืออิสาน ให้ปลูก ต้นทุเรียนและไผ่รวก เพื่อความเจริญ ปลูกต้นมะตูม เพื่อให้เกิดกำลังใจ มานะบากบั่นต่อสู้อุปสรรคต่างๆ
        • ทิศตะวันออก หรือบูรพา ให้ปลูก ไผ่สีสุกและมะพร้าว เพื่อให้อยู่เย็นเป็นสุข ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
        • ทิศตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาคเนย์ ให้ปลูก ต้นสารภี เพื่อป้องกันสิ่งเลวร้ายมากล้ำกราย ปลูกต้นยอ เพื่อให้คนอื่นยกย่องสรรเสริญ ปลูกกระถิน เพื่อป้องกันสิ่งเลวร้าย
        • ทิศใต้ หรือทักษิณ ให้ปลูก ต้นมะพลับและมะม่วง เพื่อให้ร่ำรวย ปลูกตะโก ให้มุมานะ บากบั่น และมีความอดทนเหมือนตะโก
        • ทิศตะวันตกเฉียงใต้ หรือหรดี ให้ปลูก ต้นพิกุล เพื่อป้องกันเหตุร้ายต่างๆ ปลูกขนุน เพื่อให้มีผู้อุดหนุนค้ำจุน ปลูกสะเดา เพื่อป้องกันภูติผีปีศาจมารบกวน ปลูกราชพฤกษ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล
        • ทิศตะวันตก หรือประเจิม ให้ปลูกต้น กุ่มบก กุ่มน้ำ เพราะมีความเชื่อว่าจะทำให้ครอบครัวร่ำรวย มั่งคั่ง อยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อน ปลูกพุทรา คู่กับ มะยม จะทำให้ความนิยมไม้สร่างซา ปลูกมะขาม เพื่อให้ผู้คนเกรงขาม
        • ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หรือพายัพ ปลูกมะกรูด มะนาว เพื่อจะได้มีความสุขกันทั่วหน้า ปลูกมะพูด เพื่อให้ลูกหลานเป็นคนช่างพูดช่างเจรจา 

        10 อันดับ ต้นไม้มงคลที่นิยมปลูกในเขตรั้วบ้าน ได้แก่ ขนุน ราชพฤกษ์ วาสนา พุทธรักษา เงินไหลมา มะยม แก้ว โป๊ยเซียน เศรษฐีเรือนใน เงินเต็มบ้าน เป็นต้น

        10 อันดับต้นไม้ที่ชื่อไม่เป็นมงคลที่ไม่นิยมปลูกในเขตรั้วบ้าน ได้แก่ ลั่นทม โศก ระกำ ซ่อนกลิ่น งิ้ว ตะเคียน ตะแบก โพธิ์ ไทร มะรุม

        เพื่อนๆค่ะไม่ว่าจะมีความเชื่ออย่างไร  หากเราคิดพิจารณาให้ลึกซึ้งจะพบว่าต้นไม้ทุกชนิดล้วนแฝง ไปด้วยประโยชน์ทางอาหารและยา บางชนิดอาจจะเหมาะกับสถานที่ที่หนึ่ง แต่ในบางชนิดก็อาจจะไม่เหมาะกับที่ที่หนึ่งก็ได้ คนชอบสวน อยากให้เพื่อนๆลองพิจารณาดูนะค่ะ


        .